ตามที่ได้กล่าวมาแล้วว่าก่อนที่จะลงมือเขียนโปรมแกรมจะต้องมีการวางแผนขั้นตอนการทำงานมาก่อนผังงาน(Flowchart) เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถนำมาช่วยในพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ โดยจะเป็นการเขียนอธิบายขั้นตอนวิธีการทำงานในลักษณะของรูปภาพ ทำให้สามารถนำผังงานมาช่วยในลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาได้อย่างชัดเจน
6.1 ความหมายของผังงาน
ผังงานหรือเรียกกันว่าโฟลวชาร์ตเป็นแผนภาพที่ใช้ออกแบบและอธิบายการทำงานของโปรแกรมโดยอาศัยรูปทรงต่างๆ รวมทิศทางการไหลของข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้นจนได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการระบบงานทุกชนิดที่ผ่านการวิเคราะห์เป็นลำดับขั้นตอนแล้วจะสามารถเขียนเป็นผังงานได้
ประโยชน์ของผังงาน
1. ทำให้เข้าใจขั้นตอนและลำดับในการทำงานของโปรแกรมอย่างรวดเร็ว
2. เป็นสื่อกลางระหว่างผู้พัฒนาโปรแกรม ให้สามารถเข้าใจโปรแกรมได้ง่าย
3. ทำให้สามารถวิเคราะห์ความถูกต้องของโปรแกรมก่อนเขียนโปรแกรมจริงได้ง่ายและตรวจสอบข้อผิดพลาดไดง่าย
4. ทำให้ผู้อื่นสามารถศึกษาการทำงานของโปรแกรมและแก้ไขโปรแกรมได้ง่าย
การเขียนผังงานที่ดี
1. เขียนตามสัญลักษณ์ที่กำหนด
2. ใช้ลูกศรแสดงทิศทางการทำงานจากบนลงล่าง
3. อธิบายสั้น ๆ ให้เข้าใจง่าย
4. ทุกแผนภาพต้องมีทิศทางเข้าออก
5. ไม่ควรโยงลูกศรไปที่ไกลมาก ๆ ถ้าต้องทำให้ใช้สัญลักษณ์การเชื่อมต่อแทน
6.2 ประเภทของผังงาน
การเขียนผังงานในทางคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ๆ คือ
1.ผังงานระบบ
ใช้แสดงขั้นตอนการทำงานภายในระบบงานหนึ่ง ๆ โดยกล่าวถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น เอกสารเบื้องต้นคืออะไร วัสดุที่ใช้คืออะไร ใช้หน่วยความจำประเภทใด จะต้องส่งผ่านไปยังหน่วยงานใด
2. ผังงานโปรแกรม
ผังงานประเภทนี้จะแสดงถึงขั้นตอนของที่ใช้ในการทำงานของโปรแกรม โดยเริ่มตั้งแต่การรับข้อมูล การประมวลผล การแสดงข้อมูลที่เป็นผลลัพธ์ในการทำงาน บางครั้งจะเรียกว่าผังการเขียนโปรแกรม
6.3 สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียนผังงาน
การเขียนผังงานจะต้องใช้สัญลักษณ์ภาพต่าง ๆ นำมาเรียงต่อกันเพื่อแสดงลำดับการทำงาน สัญลักษณ์มาตรฐานนี้เรียกว่า สัญลักษณ์ ANSI
จุดเริ่มต้นและสิ้นสุดโปรแกรม
การกำหนดจุดเริ่มต้นของโปรแกรมจะเขียนคำอธิบายคำว่า Start หรือคำว่า Begin เข้าไปในสัญลักษณ์เริ่มต้น ของผังงานจากนั้นจะใช้ลูกศรชี้ออกไปยังจุดที่ต้องการประมวลผลต่อไป ถ้าหากเป็นจุดสิ้นสุดโปรแกรมจะเขียนว่า Stop หรือ End เข้าไปในสัญลักษณ์โดยมีลูกศรชี้เข้า และจะไม่มีลูกศรชี้ออก ในผังงานแต่ละผังงานจะมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดเพียงอย่างละหนึ่งแห่งเท่านั้น
การประมวลผล
สัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าจะใช้สำหรับการประมวลผล การกำหนดค่า และการคำนวณ โดยจะเขียนวิธีการประมวลผลเข้าไปในสัญลักษณ์ และใช้เครื่องหมายลูกศรหรือเท่ากับในการส่งค่าไปประมวลผลขั้นต่อไป
การรับข้อมูลเข้าและแสดงข้อมูลออก
การรับข้อมูลเข้าและแสดงข้อมูลออกโดยไม่ระบุประเภทของอุปกรณ์ที่รับและส่งข้อมูล จะใช้สัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน โดยจะมีทิศทางข้อมูลเข้าออกได้อย่างละหนึ่งทิศทาง และเขียนคำอธิบายกำกับไว้ภายใน
การแสดงข้อมูลออกทางเครื่องพิมพ์
การแสดงข้อมูลออกทางเครื่องพิมพ์จะใช้สัญลักษณ์ Document ในการแสดงผลโดยข้อมูลที่แสดงผลจะเขียนอยู่ในสัญลักษณ์นี้จะแสดงข้อมูล Data ออกทางเครื่องพิมพ์ สัญลักษณ์นี้จะมีลูกศรเข้าออกได้อย่างละหนึ่งทิศทาง
การตัดสินใจ
การตัดสินใจหรือการเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งจะใช้สัญลักษณ์สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ในการตรวจสอบเงื่อนไขเพื่อตัดสินใจการทำงาน โดยเงื่อนไขที่จะตรวจสอบจะเขียนอยู่ในสัญลักษณ์นี้ ในส่วนของลำดับการทำงานจะมีลูกศรชี้เข้า 1 ทาง และลูกศรชี้ออก 2 ทาง โดยถ้าเงื่อนไขเป็นจริง (Y) จะทำโปรแกรมทิศทางหนึ่ง ถ้าเป็นเท็จ (N) จะทำอีกทิศทางหนึ่ง ในการเขียนลูกศรจะเขียนคำอธิบายไว้ที่ลูกศรด้วย เป็นการตรวจสอบว่าตัวแปร age มากกว่าหรือเท่ากับ 50 จริงหรือไม่ ถ้าตัวแปร age มากกว่าหรือเท่ากับ 50 จะทำทิศทาง Y ถ้า age น้อยกว่า 50 จะทำทิศทาง N
การต่อกับอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบดิสก์
ถ้าหากต้องการอ่านหรือเขียนข้อมูลกับอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบดรัมแม่เหล็ก หรืออุปกรณ์ที่เข้าถึงแบบโดยตรง จะใช้สัญลักษณ์ Magnetic drum เพื่อแสดงการรับหรือส่งข้อมูล สัญลักษณ์นี้จะมีลูกศรได้ทั้งแบบชี้เข้าและชี้ออก
จุดต่อ
ผังงานที่มีความยาวนานมากหรือมีเส้นตัดกันมากนั้น เราสามารถลดความยุ่งยากในการเขียนได้โดยการนำจุดต่อมาใช้ ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจผังงานได้ง่ายขึ้น ถ้าหากผังงานเขียนอยู่ภายในหน้าเดียวกัน สัญลักษณ์ที่ใช้แสดงจุดต่อจะใช้สัญลักษณ์วงกลม และเขียนหมายเลขจุดต่อที่เป็นจุดต่อถึงกันเอาไว้ภายใน
จุดต่อระหว่างหน้า
ถ้าหากมีการสร้างจุดต่อเนื่องที่อยู่คนละหน้า หรือต้องการสร้างจุดต่อที่อยู่ระหว่างหน้า จะใช้สัญลักษณ์ Off-Page Connector ซึ่งเป็นรูปห้าเหลี่ยมแสดงจุดต่อสำหรับเชื่อมการทำงานถึงกัน โดยภายในสัญลักษณ์จะเขียนหมายเลขจุดที่ต้องการเชื่อมต่อเอาไว้ด้วย และใช้ลูกศรแสดงทิศทางการทำงานของโปรแกรม
6.4 หลักเกณฑ์การเขียนผังงาน
การเขียนผังงานที่ดีสามารถสรุปเป็นหลักเกณฑ์ได้ดังต่อไปนี้
1. ผังงานที่เขียนขึ้นต้องชัดเจน และดูง่าย
2. ต้องมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดเพียงจุดเดียว
3. กำหนดทิศทางการทำงานด้วยลูกศร
4. สัญลักษณ์แบบเลือกทำจะต้องมีคำตอบที่ถูกต้องที่ทำให้โปรแกรมสามารถดำเนินต่อไปได้
5. ลูกศรที่ใช้บอกทิศทางการทำงานไม่ควรเขียนตัดกันหรือทับกัน
6. ผังงานที่มีความซับซ้อนมาก หรือมีขั้นตอนการทำงานอยู่ห่างกันมาก ควรนำสัญลักษณ์การเชื่อมต่อมาใช้ เพื่อเข้าใจง่าย
7. การเขียนส่วนประมวลผลที่มีการคำนวณควรใช้เครื่องหมายลูกศรหรือเครื่องหมายเท่ากับในการเขียน
8. เมื่อเขียนผังงานจบแล้วควรตรวจสอบความถูกต้องของผังงาน โดยการสร้างข้อมูลขึ้นมาหนึ่งชุดแล้วดูว่าผลลัพธ์เป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่
6.5 ลักษณะโครงสร้างการเขียนผังงาน
โครงสร้างโดยทั่วไปจะมีอยู่ 5 รูปแบบดังนี้
1. โครงสร้างการทำงานแบบลำดับ
จะแสดงขั้นตอนการทำงานที่เรียงลำดับกันไป ไม่มีการข้ามขั้น หรือย้อนกลับไปทำคำสั่งที่ได้ทำไปแล้ว
2. ผังโปรแกรมแบบมีทางเลือก
เป็นโครงสร้างที่ตรวจสอบเงื่อนไข ให้โปรแกรมเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งมีอยู่ 3 กรณีดังนี้
2.1 การเลือกแบบหนึ่งเส้นทาง จะทำงานเฉพาะเมื่อเงื่อนไขเป็นจริงเท่านั้น
2.2 การเลือกทำแบบสองเส้นทาง จะพิจารณาเงื่อนไขที่เป็นจริงและเป็นเท็จ โดยถ้าเป็นจริงจะทำอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นเท็จจะทำอีกอย่างหนึ่ง
2.3 การเลือกทำแบบหลายเส้นทาง จะพิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ถ้าเท่ากับทางเลือกใดก็จะได้ไปทำงานตามทางเลือกนั้น
3. ผังโปรแกรมทำซ้ำแบบเงื่อนไขเป็นจริง
จะใช้ในงานที่มีการตรวจสอบเงื่อนไข ถ้าเป็นจริงจะทำซ้ำ โดยจะตรวจสอบเงื่อนไขก่อนการทำงานทุกครั้ง
4. ผังโปรแกรมแบบทำซ้ำจนเงื่อนไขเป็นจริง
จะใช้ในระบบที่ต้องทำงานก่อนการตรวจสอบเงื่อนไข และทำงานซ้ำจนเงื่อนไขเป็นจริง
5. ผังโปรแกรมแบบทำซ้ำตามจำนวนที่ระบุ
ใช้ในระบบที่ต้องการทำงานตามจำนวนรอบที่กำหนด โดยเริ่มจากรอบเริ่มต้นไปยังรอบสุดท้าย ตามปกติแล้วค่าการนับรอบจะเพิ่มขึ้นครั้งละหนึ่งค่า
6.6 เครื่องมือสำหรับเขียนผังงาน
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเขียนผังงานมีอยู่มากมาย สำหรับอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องเขียน ได้แก่ ไม้บรรทัด แบบเทมเพลทพลาสติก ซึ่งจะมีสัญลักษณ์ของผังงานรูปแบบต่าง ๆ ให้เลือกใช้ ผู้ที่ต้องการเขียนผังงาน สามารถใช้ปากกาเขียนไปตามรูปแบบที่กำหนดได้ทันที
สรุปท้ายบท
โดยสรุปแล้ว การเขียนผังงานเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยในการจัดลำดับและอธิบายขั้นตอนการทำงานในรูปแบบของแผนภาพซึ่งประกอบด้วยสัญลักษณ์ของการทำงานแต่ละขั้นตอน การเขียนผังงานนี้จะทำให้เห็นทิศทางการประมวลผลของโปรแกรม และทำให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจโปรแกรมในภายหลัง โดยทั่วไปผังงานจะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ผังงานระบบ และผังงานโปรแกรม โครงสร้างในการเขียนผังงานนั้นมีอยู่ 5 รูปแบบ ได้แก่ โครงสร้างการทำงานแบบลำดับ ผังโปรแกรมแบบมีทางเลือก ผังโปรแกรมทำซ้ำแบบเงื่อนไขเป็นจริง ผังโปรแกรมแบบทำซ้ำจนเงื่อนไขเป็นจริง และผังโปรแกรมแบบทำซ้ำตามจำนวนที่ระบุบทที่ 1 - 5
บทที่ 1 - 5
ตอบลบhttp://marktk2004.blogspot.com